ทำไม SeGro Sesamin จึงแตกต่างจากผลิตภัณฑ์งาดำอื่นๆ ในท้องตลาด งาดำถือเป็นพืชที่เป็นที่รู้จักกันดีและได้ถูกใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ทั้งในด้านการปรุงอาหาร ทำเครื่องดื่ม และในตำหรับการรักษาโรคตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยองค์ประกอบของงาดำที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินบีรวม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซียมและสังกะสี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และวิตามินอีช่วยบำรุงผิวพรรณ นอกจากนี้เมื่อบริโภคงาดำเป็นประจำจะช่วยให้กระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดี ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหรือโรคความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคมะเร็งโดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้อีกด้วย นอกจากนี้ในงาดำยังมีสารสำคัญในกลุ่มลิกแนน (lignan) ได้แก่ เซซามิน (sesamin) เซซาโมลิน (sesamolin) และเซซามอล (sesamol) โดยเฉพาะเซซามินนั้นเป็นสารสำคัญที่มีสรรพคุณทางการแพทย์ที่หลากหลาย เช่น เซซามินแสดงประสิทธิภาพในการยับยั้งเซลล์มะเร็งในระดับห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้ยังออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ลดคอเลสเตอรอล ช่วยเสริมประสิทธิภาพของวิตามินอี มีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่หลากหลาย เช่นการอักเสบของกระดูก ปอด และตับ สามารถช่วยป้องกันตับจากการถูกทำลาย ด้วยสรรพคุณที่หลากหลายเช่นนี้ จึงทำให้ในปัจจุบัน มีการนำงาดำมาทำเป็นสารสกัดเข้มข้นเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพในรูปแบบแคปซูลและน้ำมันสกัดเย็นหลากหลายแบรนด์ในท้องตลาด แต่การบริโภคงาดำไม่ว่าจะเป็นการบริโภคแบบดั้งเดิมคือกินเป็นเมล็ดงาดำคั่วพร้อมอาหารและเครื่องดื่ม หรือการบริโภคแบบอาหารเสริมในยุคปัจจุบันก็ตาม จะต้องผ่านการย่อยอาหารผ่านระบบทางเดินอาหาร ทั้งการย่อยเชิงกล และการย่อยเชิงเคมี ซึ่งมีโอกาสทำให้สารสำคัญต่างๆ ในงาดำถูกทำลายจากสภาวะแวดล้อมที่รุนแรงในระบบทางเดินอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสำคัญ เช่น เซซามิน ที่มีประโยชน์ในงาดำซึ่งมีปริมาณไม่มาก อาจจะมีการสูญเสียไปในระหว่างนี้ได้ จากปัญหาเหล่านี้ ทางทีมวิจัยของบริษัท อยู่ นาน นาน จำกัด จึงได้พัฒนาเทคนิคการห่อหุ้มสองชั้น (double encapsulation) มาช่วยในการปกป้องสารสำคัญในสารสกัดงาดำรวมถึงเซซามิน ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมงาดำ “Segro Sesamin” โดยในระหว่างที่สารสกัดงาดำ Sergro Sesamin ผ่านระบบย่อยอาหารในกระเพาะอาหารจะไม่ถูกสภาวะที่รุนแรงทำลายจนมีการสูญเสียสารสำคัญ จนกระทั่งนำส่งสารสกัดงาดำให้ไปถึงส่วนลำไส้และมีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เทคโนโลยีที่ทีมวิจัยของเราได้พัฒนาขึ้นนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มชีวประสิทธิผล (bioavailability) ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพในการดูดซึม และควบคุมการปลดปล่อยสารสำคัญในระบบทางเดินอาหารบริเวณลำไส้ได้อีกด้วย |
![]() |
หมายเหตุ *มีงานวิจัยรายงานว่าในงาและน้ำมันงาไทยมีปริมาณเซซามินอยู่ 1.55 มิลลิกรัมต่อกรัมและระหว่าง 0.93-2.89 มิลลิกรัมต่อกรัมน้ำมันเท่านั้น (Rangkadilok et al., 2010) เรียบเรียงโดย ทีมวิจัย บริษัท อยู่ นาน นาน จำกัด เอกสารอ้างอิง Hsu, C.-Y., Wang, P.-W., Alalaiwe, A., Lin, Z.-C., Fang, J.-Y., 2019. Use of Lipid Nanocarriers to Improve Oral Delivery of Vitamins. Nutrients. https://doi.org/10.3390/nu11010068 Rangkadilok, N., Pholphana, N., Mahidol, C., Wongyai, W., Saengsooksree, K., Nookabkaew, S., Satayavivad, J., 2010. Variation of sesamin, sesamolin and tocopherols in sesame (Sesamum indicum L.) seeds and oil products in Thailand. Food Chem. 122, 724–730. https://doi.org/10.1016/j.foodchem.2010.03.044 Rudrapal, M., Mishra, A.K., Rani, L., Sarwa, K.K., Zothantluanga, J.H., Khan, J., Kamal, M., Palai, S., Bendale, A.R., Talele, S.G., Pathan, V.T., Borse, L.B., Neharkar, V.S., Sahoo, P.K., 2022. Nanodelivery of Dietary Polyphenols for Therapeutic Applications. Molecules. https://doi.org/10.3390/molecules27248706 |